เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เยอรมนีว่า สหรัฐอเมริกาและประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการค้าและการลงทุนทั่วโลก ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีเสถียรภาพ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้ไม่ได้พูดถึงอัตราดอกเบี้ย แม้มีกระแสคาดการณ์ว่าในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างหนัก โดยเฉพาะข้อมูลจ้างงานเดือนส.ค.ที่ร่วงลงเกินความคาดหมาย
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า "ภาวะไร้ดุลยภาพทั่วโลกเกิดขึ้นเมื่อหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา มียอดขาดดุลการค้าจำนวนมาก ขณะที่หลายประเทศ อาทิ จีนและประเทศผู้ผลิตน้ำมัน มียอดเกินดุลการค้ามูลค่ามหาศาล ด้วยเหตุนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จึงใช้ความพยายามหลายปีที่จะลดช่องว่างทางการค้าและการลงทุนเช่นนี้"
แนวปัญหาในด้านอื่นๆนั้น เบอร์นันเก้กล่าวว่า "มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกมีความคืบหน้าขึ้น แต่ประเทศส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จำเป็น นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยประเภทระยะยาวทั่วโลกได้อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความผันผวนในตลาดการเงิน"
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า จีนจะต้องเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายภายในประเทศและลดการส่งออกลง ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ตัวเลขการค้าทั่วโลกมีความสมดุลในระยะยาว
นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะลดลงในปีนี้เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกของสหรัฐจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในหลายประเทศและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งจะทำให้สินค้าของสหรัฐมีราคาถูกลงในตลาดต่างประเทศ และชาวอเมริกันจะนำเข้าสินค้าในราคาที่ถูกลง สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--