ดอลล์อ่อนเทียบเยน-ยูโร หลังสหรัฐเผยข้อมูลด้านการผลิตชะลอตัวลง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 5, 2007 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) ที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลีย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่าข้อมูลด้านการผลิตไม่ได้ปรับตัวลงมากนัก จึงทำให้คาดว่าผลกระทบของวิกฤตการณ์ตลาดซับไพรม์ที่จะมีต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น อาจมีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.50 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 116.28 เยนต่อดอลลาร์ อ่อนตัวลงจากระดับในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 116.31 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.3624 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.3608 เยนต่อดอลลาร์
นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ กล่าวว่า แม้ดอลลาร์อ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ แต่เทรดเดอร์คาดว่าภาวะไร้เสถียรภาพในตลาดการเงินของสหรัฐใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งส่งคำสั่งซื้อเข้ามาในตลาดและทำธุรกรรม carry trade มากขึ้น อีกทั้งกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรเงินตราต่างประเทศในขณะนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้น โดยการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ได้ช่วยพยุงดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้น
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตทั่วประเทศลดลงสู่ระดับ 52.9 จุดในเดือนส.ค.จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 53.8 จุด ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ไว้ที่ 53.0 จุด
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ค.ลดลง 0.4% ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2550 ขณะที่ปริมาณการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่สามารถชดเชยตัวเลขการสร้างบ้านที่ปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางในยุโรปจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 6.50% ในช่วงเช้านี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ