โพลล์ชี้บ.ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น 80% มองศก.แดนปลาดิบขยายตัวในระดับปานกลาง

          ผลสำรวจความคิดเห็นทางเศรษฐกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า 80% ของบริษัทที่ทำการสำรวจมีความเห็นว่า เศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวในระดับปานกลาง โดยกว่า 90% มองว่าเศรษฐกิจในสหรัฐจะประสบภาวะชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เช่นปัญหาในตลาดสินเชื่อ ซึ่งส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกไปทั่วโลก
          สำนักข่าวเกียวโดรายงานผลสำรวจบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นจำนวน 100 แห่ง ที่จัดทำขึ้นในช่วงปลายเดือนส.ค และต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น จะประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันพุธที่ 12 ก.ย. โดยบริษัท 81 แห่งมองว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงขยายตัวในระดับปานกลาง
          โดยบริษัท 41 แห่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะขยายตัวต่อเนื่องไปนานกว่า 1 ปี ขณะที่ 48% คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้ สำหรับความคิดเห็นในแง่ของปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจนั้น บริษัท 94 แห่ง ชี้ว่าภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ขณะที่บริษัท 52 แห่งมองว่าราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่สูงขึ้นเป็นประเด็นที่น่าวิตกกังวล
          บริษัท 38 แห่งชี้ว่าผลกระทบจากวิกฤติปล่อยกู้จำนองให้ลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือของสหรัฐ(ซับไพรม์)จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการอุปโภคบริโภคของญี่ปุ่นอย่างรุนแรงในระยะนี้ ขณะที่ 32 แห่งมองว่าผลกระทบดังกล่าวไม่รุนแรงและเกิดขึ้นในระยะเวลาที่จำกัด
          นอกจากนี้มีบริษัท 38 แห่งคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่ 37% มองว่าบีโอเจน่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไปในระยะนี้
          ทั้งนี้ บริษัทที่ได้รับการสำรวจประกอบด้วย โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, โซนี่ คอร์ป, มิตซูชิต้า อิเล็กทริค อินดรัสเตรียล โค, มิตซูบิชิ คอร์ป, โนมูระ โฮลดิ้ง อิงค์, โตเกียว อิเล็กทริค พาวเวอร์ โค และเจแปน แอร์ไลน์ คอร์ป