นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดการส่งออกในประเทศนอกภาคน้ำมันของสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนส.ค. เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์นอกภาคอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีภาคการขุดเจาะน้ำมันและภาคชีวเภสัชศาสตร์เป็นตัวชดเชยยอดการส่งออกที่ซบเซาในภาคอิเล็กทรอนิกส์
นักวิเคราะห์ในโพลล์ของธอมสัน ไฟแนนเชียล คาดการณ์ว่า ยอดการส่งออกในประเทศนอกภาคน้ำมันจะเพิ่มขึ้นราว 5-15% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ขยายตัว 5.5% ในเดือนก.ค. โดยทางบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพรซ์ สิงคโปร์ จะเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลในวันที่ 17 ก.ย.นี้
"ยอดการส่งออกในประเทศนอกภาคน้ำมันอาจขยายตัวราว 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนส.ค. เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการส่งออกนอกภาคอิเล็กทรอนิกส์" ชัว ฮัค บิน นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าว
"ภาคเภสัชกรรมมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังเกิดการชะลอตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยจะส่งผลให้ยอดส่งออกนอกภาคอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวราว 21% เราคาดว่ายอดส่งออกภาคอิเล็กทรอนิกส์จะลดลงราว 8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากอัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐลดลง" นายชัวกล่าว
ในขณะที่ความต้องการสินค้านอกภาคอิเล็กทรอนิกส์ยังคงความแข็งแกร่ง โดยนายวิษณุ วราธัน นักเศรษฐศาสตร์จากฟอร์คาสท์กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่ออาจฉุดยอดการส่งออกให้ลดลง
"ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาการจ้างงาน และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้ความต้องการในภาคเทคโนโลยีลดลง" นายวิษณุกล่าว
อย่างไรก็ตาม เดวิด โคเฮน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียจาก Action Economics กล่าวว่า ยอดส่งออกภาคอิเล็กทรอนิกส์อาจดีดตัวขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตต่างลดปริมาณสินค้าคงเหลือจากปีที่แล้ว
"ยอดการส่งออกยังคงผันผวนเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่ยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากทั่วโลก แม้แนวโน้มในอนาคตอาจไม่ค่อยสดใสเนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็ตาม" เขากล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--