นักวิเคราะห์คาดธ.กลางอินโดนีเซียอาจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมพฤหัสนี้

          นักเศรษฐศาสตร์ 10 คนที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลได้สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ 8.25% ในการประชุมคณะกรรมการของธนาคารกลางในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น และค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าเร็วขึ้นกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
          ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอินโดนีเซียในเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถิติในเดือนก.ค. 0.75% และปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถิติในปีก่อนหน้านี้ 6.51% เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเล่าเรียน ค่าอาหารและค่าบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น
          ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์หลายท่านคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนส.ค.จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถิติในเดือนก.ค.ที่ระดับ 0.3-0.63% และเพิ่มขึ้นจากสถิติในปีก่อนหน้านี้ 6.15-6.4%
          "ผมคิดว่าธนาคารกลางอินโดนีเซียอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกในสัปดาห์นี้ ปัญหาวิกฤตตลาดซับไพรม์ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงระหว่างการประชุมระหว่างประเทศเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินรูเปียห์ไหลออกนอกประเทศจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลง" ซู เซียน ลิม นักเศรษฐศาสตร์จาก DBS กล่าว
          "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลออกเพิ่มขึ้น เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลง" เธอกล่าว
          "นอกจากนี้ ตัวเลขดัชนี CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในประเทศในเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางด้านราคาสินค้าต่างๆที่เพิ่มขึ้น" เธอกล่าวเสริม
          "ตลาดทั่วโลกยังคงขาดเสถียรภาพ ดังนั้นสถานการณ์ดังกล่าวจึงไม่เอื้ออำนวยให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้" นายกันดิ คาห์ยาดิ นักเศรษฐศาสตร์จากไอเดียโกลเบิลกล่าว
          "ธนาคารกลางยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆจะเติบโตสูงสุดแตะระดับ 20% ในปี 2550 และคาดว่าอินโดนีเซียจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 6.3% ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้" นายคาห์ยาดิกล่าว ธอมสัน ไฟแนนเชียล