นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดำเนินการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ต่อไป
"คาดว่าจะนำเสนอให้วิป สนช.พิจารณาได้ในวันจันทร์หน้า(22 ต.ค.) รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้" นายยรรยง กล่าว
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งทั้งรายใหญ่และรายย่อยสามารถอยู่ร่วมกันได้ มีการแข่งขันที่เป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ที่เท่าเทียมกัน
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง 3 ประเภทต้องยื่นขออนุญาตในการประกอบธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 1 พันตารางเมตรขึ้นไป, ผู้ประกอบการที่มียอดขายตั้งแต่ปีละ 1 พันล้านบาทขึ้นไป และผู้ประกอบการที่มีระบบเครือข่ายและมียอดขายรวมกันตั้งแต่ปีละ 1 พันล้านบาทขึ้นไป
ส่วนคณะกรรรมการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่งนั้นจะให้มีเฉพาะคณะกรรมการกลางที่มี รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเพียงชุดเดียว จากเดิมที่จะให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดด้วย เนื่องจากเห็นว่าอาจเกิดปัญหาความไม่เสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งที่มีมาก่อนให้แจ้งการดำเนินธุรกิจต่อ รมว.พาณิชย์ ภายใน 60 วัน
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--