นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกของไทยมีแนวโน้มดีขึ้น และน่าจะพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากที่เผชิญกับวิกฤตโควิด สงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยคาดการณ์ว่า การส่งออกของไทยในเดือนมี.ค.64 จะเป็นบวกไม่น้อยกว่า 8 %
ทั้งนี้ การส่งออกยังมีสัญญาณที่ดี ทะยานขึ้นเป็นลำดับ จากตัวเลขการส่งออกที่ต่ำสุดช่วงเดือนพ.ค.63 ที่หดตัว -22% เดือนมิ.ย.63 หดตัว -23% แต่หลังจากนั้นก็ติดลบน้อยลงเป็นลำดับจนถึงเดือนก.ค.63 หดตัว -11% และเดือนธ.ค. 63 บวกถึง 4.7% ส่วนในปี 64 การส่งออกเดือนม.ค. เป็นบวก และเดือน ก.พ. แม้ภาพรวมจะติดลบ แต่ถ้าหักทองคำ ยุทธปัจจัย และน้ำมันออก ตัวเลขการส่งออกก็ยังเป็นบวกอยู่
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับสินค้าสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ประกอบด้วย สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนผลิตผลทางการเกษตรที่ยังมีอนาคต ประกอบด้วย ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และอาหารกระป๋องมีการขยายตัวที่ดี โดยตลาดที่มีศักยภาพรองรับสินค้าของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา, จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, อาเซียน, CLMV และตลาดในทวีปออสเตรเลียที่ขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ดี แม้ภาคการท่องเที่ยวจะติดปัญหาอุปสรรคจากการที่ยังไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ก็ตาม แต่การส่งออกของไทยยังเดินหน้าต่อไปได้ และจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญต่อไป ภายใต้ความร่วมมือทำงานหนักระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ทั้งทีมเซลล์แมนจังหวัด และทีมเซลล์แมนประเทศ