สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำ (ทองคำ 96.5%) ขายปลีกในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้บาทละ 200 บาทตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก โดยเมื่อเวลา 09.25 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 26,500.00 บาท ขายออกบาทละ 26,600.00 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 26,029.72 บาท ขายออกบาทละ 27,100.00 บาท
บทวิเคราะห์จากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ ปิดทะยานขึ้น 16.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำทะลุผ่านระดับสูงสุดเดิมของสัปดาห์นี้บริเวณ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้เกิดแรงซื้อตามทางเทคนิค ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่
1. แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอินเดียและญี่ปุ่น รวมถึงแรงซื้อทองคำ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังประธานาธิบดีปูติน เตือนประเทศต่างๆ ว่าจะตอบโต้รุนแรงหากล้ำเส้นแดงของรัสเซีย
2. ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกที่ทำมาในระหว่างวัน และปิดตลาดด้วยการอ่อนค่าลง -0.10% หลังธนาคารกลางแคนาดา ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ในวันนี้ แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี
3. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงปิดที่ 1.537% จากแรงซื้อพันธิบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
"ราคาทองคำเกิดแรงซื้อจนราคาดีดตัวขึ้น โดยมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,800-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันมาอีกครั้ง ระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,783-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง เน้นเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น" บทวิเคราะห์ระบุ
โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,783-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และขายให้ทยอยทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,800-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์