บรรดาซีอีโอจากสถาบันบริการทางการเงินรายใหญ่ของโลกกว่า 20 แห่ง ต่างกล่าวว่า มีโอกาส 37% ที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะถดถอยลงในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเศรษฐกิจที่เติบโตในจังหวะที่ชะลอตัวลงเป็นผลสืบเนื่องมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้มีตัวเลขสูงขึ้นจากระดับเดือนเมษายนที่ 24%
ผลสำรวจครั้งนี้สมาชิกระดับซีอีโอ ซึ่งรวมทั้งจากแบงค์ ออฟ อเมริกา ซิตี้กรุ๊ป และ โกลด์แมน แซคส์ ต่างคาดว่า ในปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 2.45% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากวิกฤตการณ์อสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อ กอปรกับราคาพลังงานที่ทะยานขึ้น ทำให้ต้องปรับลดคาดการณ์ ส่วนอีกปัจจัยที่อาจฉุดให้เศรษฐกิจโตช้าก็คือลัทธิปกป้องทางการค้าที่มีมากขึ้น
เหล่าผู้บริหารสถาบันการเงินคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% ก่อนสิ้นปีนี้
ร็อบ นิโคลส์ ประธานไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟอรั่ม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะแข็งแกร่งกว่าของสหรัฐ โดยดัชนีช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะเติบโตในอัตรา 2.27%
สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ดัชนีเพิ่มขึ้นเป็น 2.27% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เหล่าซีอีโอกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำในระยะสั้น และเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นในระยะกลาง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--