รัฐบาลจีนยอมรับว่ารัฐบาลล้มเหลวในการสกัดกั้นราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งขึ้น โดยตำหนิเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าไม่ทำงานเต็มกำลังในการรับประกันว่าปริมาณที่อยู่อาศัยมีอย่างเพียงพอ
หนังสือพิมพ์ ไชน่า เดลี่ รายงานว่า คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) จะดำเนินการให้นโยบายการปล่อยกู้และภาษีตรงเป้าหมายมากขึ้น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า นับแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม ยอดขายบ้านพุ่งขึ้น 30.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายงานระบุว่า "เจ้าหน้าที่ในบางพื้นที่ไม่ทำงานอย่างกระตือรือร้นในการปรับโครงสร้างอุปทานที่อยู่อาศัย และสร้างเสถียรภาพด้านราคา" รายงานกล่าว
คณะกรรมการระบุว่า ความล้มเหลวมาจากการเพิกเฉยต่อหน้าที่อย่างจงใจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางส่วน โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายสำหรับการก่อสร้างอพาร์ตเม้นท์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่น้อยกว่า 90 ตารางเมตรได้
ส่วนหนึ่งของมาตรการใหม่ที่มีการประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ก่อน การจ่ายเงินดาวน์สำหรับผู้ซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิม 30%
นับเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จีนได้ทยอยออกมาตรการต่างๆ รวมทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและภาษี เพื่อสกัดกั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ถีบตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่รุนแรงในภาคธุรกิจนี้ ทว่า มาตรการเหล่านี้กลับได้ผลเพียงเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่กว่า 70 เมืองทั่วประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น 8.2% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และถือเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดจนถึงขณะนี้ของจีน
ทั้งนี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงปักกิ่งพุ่งขึ้นแล้ว 12.1% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบรายปี ขณะที่ เมืองเสิ่นเจิ้นทางตอนใต้ของจีน ซึ่งมีพรมแดนใกล้กับฮ่องกงราคาได้ทะยานขึ้น 20.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--