นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประชุม ครม.วันนี้ ยังไม่มีการพูดคุยถึงมาตรการเยียวยาประชาชน แต่ต้องไปดูว่ากระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องใดเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ส่วนจะจำเป็นต้องหารือกับภาคเอกชนในวันที่ 28 เม.ย.ก่อนหรือไม่นั้น การหารือดังกล่าวเป็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนให้ทั่วถึง และเป็นเรื่องของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่เอกชนเสนอตัวมาร่วมทำงานกับรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องมาตรการเศรษฐกิจ
นายสุพัฒพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนตระหนัก และทราบดีว่าการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นทั้งโลก ประเทศไทยจึงต้องร่วมมือกัน ซึ่งน่าดีใจที่ภาคเอกชนมีประสบการณ์มากขึ้น และมีการเตรียมพร้อม รวมถึงเห็นความสำคัญของมาตรการที่รัฐบาลออกมา อีกทั้งยังเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชน เพื่อให้เข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น จึงต้องดำเนินการในเรื่องนี้ก่อน
"เมื่อปีที่แล้วยังไม่มีวัคซีน แต่วันนี้วัคซีนทยอยเข้ามาแล้ว เราต้องช่วยกัน เรามีสิ่งที่ใหม่และเป็นโอกาสที่ทำให้ทั่วถึง และจัดลำดับให้ดี อาจจะทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนและเปิดประเทศได้เร็วขึ้น" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานระบุ
นายสุพัฒนพงษ์ ย้ำว่าทุกประเทศในยามนี้ คือ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ซึ่งก็คือการบริโภคในประเทศ และเราพบว่าเงินฝากของภาคเอกชนที่อยู่ในระบบเงินฝากเพิ่มมากขึ้นหลายแสนล้านเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤติโควิด-19 เหมือนกัน รัฐบาลจึงตระหนักว่า ถ้านำเงินส่วนนี้มาช่วยกันจะเกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ ไม่ใช่การบังคับ แต่จะมีมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนที่มีเงินฝากนำเงินที่เกินมาไปใช้ในการอุปโภคบริโภคและลงทุน
"ตรงนี้จะมีส่วนให้ประเทศไทยเรามีศักยภาพที่ดีขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็เห็นอกเห็นใจกัน อยากให้สื่อทำความเข้าใจตรงนี้" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานกล่าว