น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินประชาชน เพื่อลดภาระต้นทุนของสถาบันการเงินประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิก พร้อมกับอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่สถาบันการเงินประชาชนและสมาชิกของสถาบันการเงินประชาชนสำหรับการดำเนินการต่างๆตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงินประชาชน
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้อนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีที่มีการจัดตั้งและการดำเนินงานของสถาบันการเงินประชาชน ซึ่งมีสาระสำคัญคือ เป็นการลดหย่อนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีที่มีการจัดตั้งและการดำเนินงานของสถาบันการเงินประชาชน โดยให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในอัตรา 0.01%
ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ดำเนินการจัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากมาตรการนี้ พบว่ารัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากภาษีที่คาดว่าจะได้รับประมาณปีละ 18 ล้านบาท และสูญเสียรายได้ที่ได้รับจากค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประมาณปีละ 2.6 ล้านบาท แต่จะช่วยให้สถาบันการเงินประชาชนมีภาระต้นทุนในการดำเนินงานที่ลดลง และสามารถดำเนินกิจการตามภารกิจและวัตถุประสงค์ที่ต้องการส่งเสริมการออมทรัพย์และให้บริการทางการเงินแก่สมาชิก รวมทั้งส่งเสริมหรือสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ คุณภาพชีวิต และสวัสดิการของสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น