นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.36/37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.40/45 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทค่อนข้างเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่รอบ นี้ คาดว่าในส่วนของอัตราดอกเบี้ย และการเข้าซื้อพันธบัตรยังคงอยู่ในระดับเดิม เพียงแต่ตลาดรอฟังมุมมองเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าของ สหรัฐฯ ว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่ หลังจากที่ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนต้านไวรัสโควิดกันไปแล้ว
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามว่ากระทรวงการคลังจะปรับประมาณการ GDP ปีนี้อย่างไร แต่แนวโน้มน่าจะปรับลดลง จากรอบก่อน เนื่องจากปัญหาโควิดระบาดรอบใหม่ในช่วงเดือนเม.ย. ที่ค่อนข้างกดดันเศรษฐกิจไทย
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.25- 31.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.92/93 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.65/109.15 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2068/2071 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2055/2100 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด (+1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 94,645 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,009.07 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง ยืนยันรัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอสำหรับใช้การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด
- ภาคเอกชนกว่า 2,600 บริษัท แจ้งความประสงค์ในการรับจัดสรรวัคซีน โดยนายจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกจ้าง
- องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษา
- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปี 2564 จะกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่
- รัฐสภายุโรป ลงมติรับรองข้อตกลงด้านการค้าและความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษแล้วในวันนี้ ด้วย
- ฮ่องกงเตรียมเริ่มแผน "วัคซีน บับเบิล" (Vaccine Bubble) ซึ่งจะอนุญาตให้สถานที่ต่างๆ เปิดให้บริการอีกครั้งหรือลด
- โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับขึ้นอีก 13.5% ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการ
- เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P) เปิดเผยในวันนี้ว่า การแพร่ระบาดระลอก 2 ของโรคโควิด-19 ในอินเดียอาจจะขัดขวาง
- -รัฐสภายุโรปลงมติรับรองข้อตกลงด้านการค้าและความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษแล้วในวันนี้ ด้วย
คะแนนเสียงเห็นชอบ 660 เสียง ไม่เห็นชอบ 5 เสียง และงดออกเสียง 32 เสียง หลังจากมีการอภิปรายที่ยาวนานหลายชั่วโมง