นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 3 เดือนของปี 64 (ม.ค.-มี.ค.) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.7% โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 73.9%, การใช้กลุ่มเบนซินลดลง 0.2%, กลุ่มดีเซลลดลง 0.6% ขณะที่น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 29.1%, น้ำมันก๊าดลดลง 11.5%, LPG เพิ่มขึ้น 2.5% และ NGV ลดลง 31.2%
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนม.ค.-มี.ค.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.1 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 0.2% โดยการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน หรือลดลง 9.7% กลุ่มแก๊สโซฮอล์ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30.4 ล้านลิตร/วัน หรือเพิ่มขึ้น 0.1%
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนมี.ค.64 พบว่า การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33.9 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หรือเดือนม.ค.-ก.พ.64 อยู่ที่ 27.3 และ 32.2 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด จากการผ่อนคลายมาตรการและข้อบังคับต่างๆ ตั้งแต่เดือนก.พ.64 หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ดีขึ้น
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนม.ค.-มี.ค.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 67.2 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย ลดลง 0.6% สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 7 มีปริมาณการใช้ลดลง 22.3% มาอยู่ที่ 40.0 ล้านลิตร/วัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.62 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.9 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.0 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 73.9% เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการโดยสารเครื่องบินได้รับผลกระทบหนักอย่างต่อเนื่อง
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.4 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 2.5% โดยปริมาณการใช้ในภาคปิโตรเคมีขยายตัวและมีการใช้มากที่สุดอยู่ที่ 6.8 ล้านกก./วัน หรือเพิ่มขึ้น 12.5% ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีการใช้อยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 5.0% และภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.8 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่ภาคขนส่งมีการใช้ลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน ลดลง 22.5%
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 31.2% โดยเป็นผลต่อเนื่องจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ยังคงลดลง
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนม.ค.-มี.ค.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 922,120 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 4.9% โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 879,480 บาร์เรล/วัน ลดลง 5.2% ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าลดลงมาอยู่ที่ 48,074 ล้านบาท/เดือน หรือลดลง 12.6% สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 42,640 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 0.4% คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม อยู่ที่ 2,589 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 12.9%
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนม.ค.-มี.ค.64 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 168,874 บาร์เรล/วัน หรือลดลง 6.5% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 9,985 ล้านบาท/เดือน ลดลง 3.7%