นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวในที่ประชุมความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันว่า เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของจีนจะไม่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและไม่สามารถรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ หากจีนไม่ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่
"จีนได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่คำถามอยู่ที่ว่าเศรษฐกิจจีนเติบโตแตกต่างจากประเทศอื่นและเติบโตอย่างชาญฉลาดกว่าจริงหรือ การเติบโตอย่างชาญฉลาดนั้นหมายความว่า จะต้องเติบโตแบบใช้อุตสาหกรรมหนักเป็นแรงขับเคลื่อนและไม่ใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย แต่หันไปพึ่งพาการส่งออก" พอลสันกล่าว
ในโอกาสนี้ พอลสันได้กล่าวเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาว่า "สหรัฐต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน โดยกล่าวว่าค่า เงินหยวนที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงเหมือนกับที่บางประเทศวิตกกังวล การปรับค่าเงินให้ยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยให้นโยบายการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสกัดกั้นเงินเฟ้อ"
ทั้งนี้ พอลสันเตือนว่า ทั้งจีนและสหรัฐยังคงประวิงเวลาการปฏิรูปเศรษฐกิจ อีกทั้งมีค่านิยมปกป้องอุตสาหกรรมของตนเองที่สูงขึ้น และมีความเป็นชาตินิยมในเศรษฐกิจของตนเองมากขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการเข้าถึงเป้าหมายระยะยาว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--