นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยชินโกะกล่าวว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 62.7% ในเดือนก.ย.นั้น สะท้อนให้เห็นว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์)
"สหรัฐเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับสินค้าญี่ปุ่น ซึ่งการที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคส่งออกของญี่ปุ่น" นักวิเคราะห์กล่าว
เมื่อเช้านี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 1.638 ล้านล้านเยน พุ่งขึ้น 62.7%จากปีที่แล้ว เนื่องจากยอดส่งออกปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง ขณะที่ยอดส่งออกปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ย.ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.461 ล้านล้านเยน อันเป็นผลมาจากญี่ปุ่นมียอดส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย ตะวันออกกลาง และจีนมากขึ้น
"ยอดส่งออกของญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการสินค้าในประเทศเครือสหภาพยุโรป เอเชีย และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าปัจจัยบวกเหล่านี้จะสามารถชดเชยผลกระทบที่ที่เกิดจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงได้" นักวิเคราะห์กล่าว
"นอกจากนี้ คาดว่ามหกรรมกีฬาโอลิปิกที่กรุงปักกิ่งปีหน้า จะช่วยให้ยอดส่งออกสินค้าไฮเทคของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย" เขากล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--