องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) กล่าวถึงผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า อินเดียจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้านการพัฒนาตลาดแรงงาน ตลาดเงิน และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในการดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศครั้งต่อไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานโดยอ้างผลสำรวจของ OECD ที่ระบุว่า อินเดียยังต้องเผชิญกับอุปสรรคนานับประการในการขยายตัวด้านการผลิตสินค้า ตลาดแรงงาน และตลาดเงิน รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งนับเป็นรากฐานสำคัญในการปฏิรูประเทศ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
ผลสำรวจดังกล่าวยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของ GDP ที่ระดับ 10% ในปี 2554 ได้แน่นอน หากอินเดียยังคงดำเนินนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ OECD ได้เรียกร้องให้อินเดียปฏิรูปนโยบายจัดเก็บภาษี และลดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องกระจายการศึกษาให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านทรัพยากรมนุษย์
ทั้งนี้ OECE ยังชี้ให้เห็นว่า การปฏิรูปประเทศจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ และจะช่วยให้อินเดียมีการขยายตัวด้านผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลตามการคาดการณ์ GDP ที่ขยายตัวขึ้น 8.5% ในปี 2546
"การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วได้ทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสามของโลก รองจากสหรัฐและจีน โดยได้ขึ้นแซงหน้าญี่ปุ่นในปี 2549 เมื่อวัดจากกำลังซื้อเทียบเท่ากับประเทศยักษ์ใหญ่รายอื่นๆในโลก" OECD ระบุ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--