น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบเงินอุดหนุน จำนวน 350 ล้านบาท ให้แก่สภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อเป็นทุนประเดิมเบื้องต้น ตามที่ พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 กำหนด
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค เป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1. คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค 2. ติดตามและตรวจสอบปัญหาที่กระทบสิทธิผู้บริโภค 3. ส่งเสริมองค์กรของผู้บริโภคในระดับพื้นที่และจังหวัด 4. ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค 5. ช่วยเหลือสมาชิกในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนและในระหว่างการดำเนินคดี 6. สนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิ 7. เสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคแก่ภาครัฐ
สำหรับแผนปฏิบัติการสภาองค์กรของผู้บริโภค ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 - 2565 ประกอบด้วย 6 แผนสำคัญ ดังนี้
1. แผนงานสนับสนุนและดำเนินการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค
2. แผนงานพัฒนานโยบายและมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค
3. แผนงานสนับสนุนหน่วยประจำจังหวัดและองค์กรของผู้บริโภค
4. แผนงานสื่อสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
5. แผนงานจัดตั้งสำนักงานและพัฒนากำลังคนของสภาองค์กรของผู้บริโภค
6. แผนเงินสำรองกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 350 ล้านบาท ส่วนงบประมาณอีก 378 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 นั้น ให้สภาองค์กรของผู้บริโภค ใช้จ่ายจากเงินทุนประเดิมที่มีเหลือ และเงินรายได้ที่มาจากค่าลงทะเบียน ค่าบำรุง และค่าบริการที่เก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก หากไม่เพียงพอให้เสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป