ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 30, 2007 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 47 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4424 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 1.4438 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0494 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 47 ปีที่ 1.0509 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0619 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 2.0521 ดอลลาร์ต่อปอนด์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 114.59 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 114.22 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.1651 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1645 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
นายอาชราฟ ไลดี นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาทองคำที่พุ่งขึ้นเตะระดับ 780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2523 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกจากตลาดปริวรรตเงินตราและหันเข้าไปซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น
"ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทีบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและดอลลาร์แคนาดา อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเกิดปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองซับไพรม์และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอภายในประเทศ" นายไลดีกล่าว
เมื่อคืนนี้ เฟดสาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ลดลงแตะระดับ 105.2 จุดในเดือนก.ย. จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 105.4 จุด เพราะได้รับผลกระทบจากความอ่อนแอของธุรกิจรถยนต์และเหล็กกล้า
ทั้งนี้ นายไลดีกล่าวว่า นักลงทุนกำลังจับตาดูผลการประชุมเฟดในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.25% หรืออาจจะมากถึง 0.50% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอีกเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ