ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกการจ้างงานสหรัฐ ฉุดดอลล์ร่วงหนักสุดเทียบยูโร

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากกระทรวงแรงงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด อันเนื่องมาจากเสรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4293 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4186 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยในระหว่างวัน ยูโรพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 1.4309 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ต.ค.พุ่งขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 337,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 314,000 ราย
          ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0448 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0355 ดอลลาร์ต่อปอนด์ นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 115.65 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 116.55 เยนต่อดอลลาร์ และร่วงลงแตะระดับ 1.1694 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1814 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
           นายไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G7 จะหารือกันถึงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและค่าเงินยูโรที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการประชุม G7 จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน
          "รัฐบาลในหลายประเทศของยุโรปกำลังกังวลว่าสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐและจีน ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนม.ค. และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมปลายเดือนนี้" นายวูลฟอล์คกล่าว
          นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เตือนว่า การทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจฉุดเศรษฐกิจของสหรัฐให้ "ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ" ไปจนถึงปีหน้า และกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่หลังจากถูกกระทบจากวิกฤตการณ์สินเชื่อนั้น จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
          นอกจากนี้ นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐกล่าวในทำนองเดียวกันว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการทุกด้านที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น