ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 พ.ค.) ที่ 31.15-31.50 บาท/ดอลลาร์ จากวันศุกร์ (14 พ.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลจีดีพีไตรมาสที่ 1/64 และข้อมูลการส่งออกเดือนเม.ย. ของไทย ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และบันทึกการประชุมเฟด (27-28 เม.ย.) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนพ.ค. และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนเม.ย. อาทิ ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลง หลังขยับแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์รับข่าวตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่เพิ่มน้อยกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงตั้งแต่ในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่คาด และทำให้ตลาดกังวลว่า สัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดอาจจะมาเร็วกว่าที่ประเมินไว้
อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มจำกัดลงช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายหลังรองประธานเฟดออกมาย้ำสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง และมองว่า ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะเป็นเพียงภาวะชั่วคราว