กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมากล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวเนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการทดสอบศักยภาพของเศรษฐกิจโลกว่าจะขยายตัวในอัตราเดิมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงสามารถต้านทานปัญหาที่เกิดขึ้นได้
"ตอนนี้การเงินทั่วโลกยังคงอยู่ในสภาพดีและเม็ดเงินไหลเวียนในภาคเอกชนก็มีเสถียรภาพ" รายงานของไอเอ็มเอฟระบุ "แต่ก็ไม่ควรทึกทักเอาว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างรวดเร็วแบบนี้ตลอดไป"
ไซม่อน จอห์นสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็มเอฟกล่าวในการแถลงข่าวว่า "เศรษฐกิจโลกจะยังคงขยายตัวต่อไป แต่ในอัตราที่ช้าลงกว่าเดิม"
นายจอห์นสันกล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ไอเอ็มเอฟจะแนะนำได้ว่าแต่ละประเทศควรใช้มาตรการใดในการรับมือกับปัญหาสินเชื่อที่เกิดขึ้น "เราต้องรอดูจนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนกว่านี้ เพื่อทำความเข้าใจและเลือกใช้มาตรการที่จะรับมือกับมัน"
ในรายงานเดือนก.ค. ไอเอ็มเอฟได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็น 5.2% จากเดิมที่ 4.9% นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะขยายตัว 5.2% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย. 0.3%
อย่างไรก็ตาม สื่อบางแห่งอ้างแหล่งข่าวจากวงในของไอเอ็มเอฟว่า ตอนนี้ทางไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจในปีหน้าเหลือเพียง 4.8%
นอกจากนั้นไอเอ็มเอฟยังปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้าลงเหลือ 1.9% จากเดิมที่ 2.8%, แคนาดาเหลือ 2.3% จากเดิมที่ 2.8% และเขตยูโรโซนเหลือ 2.1% จากเดิมที่ 2.5% สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--