สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ของจีนเปิดเผยว่า จีนมียอดผู้จดทะเบียนดำเนินธุรกิจ SME เพิ่มขึ้นกว่า 4.3 ล้านราย ซึ่งการขยายตัวด้านธุรกิจดังกล่าวมีส่วนช่วยขับเคลื่อนอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ถึง 58.5%
นายหลี่ ซีบิน ประธานสมาคมฯกล่าวว่า จำนวนผู้ประกอบธุรกิจ SME กว่า 4.3 ล้านรายนั้น 95% เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งเสียภาษีแก่รัฐคิดเป็นสัดส่วน 50.2% ของภาษีเงินได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม นายหลี่ กล่าวว่าผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวยังต้องรับมือกับปัญหานานับประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อกฏหมายที่ไม่รัดกุม รวมไปถึงความยุ่งยากด้านการขออนุมัติเงินกู้ และปัญหาความท้าทายด้านการผลิตสินค้าที่ดึงดูดใจผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการหลายรูปแบบเพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจ SME โดยจะเห็นได้จากเมื่อช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ในประเทศ 5 แห่งได้อนุมัติวงเกินกู้จำนวน 1.5 ล้านล้านหยวนให้กับผู้ประกอบการ SME ทั้งสิ้น 535,900 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากต้นปีนี้ที่ผ่านมาถึง 1.20 แสนล้านหยวน หรือคิดเป็น 8.3%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากปัจจัยด้านสังคมที่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ SME มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์ด้านโครงสร้างธุรกิจที่ดีขึ้น และยกระดับการดำเนินงานที่ทันสมัย รวมถึงปรับปรุงคุณภาพสินค้า ควบคู่ไปกับการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--