โกลด์แมนแซคส์คาด GDP-เงินเฟ้อจีนจะลดลงในไตรมาส 3 หลังยอดส่งออกชะลอตัว

          โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และอัตราเงินเฟ้อ ของจีนจะปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการส่งออกในประเทศที่ชะลอตัวลง
          อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า จีนมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อไป แม้ว่าตัวเลข GDP และอัตราเงินเฟ้อในประเทศจะยังอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจก็ตาม
         ทั้งนี้ รัฐบาลจีนมีกำหนดการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงปลายเดือนนี้
          โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า GDP ในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งสิ้นสุดที่เดือนก.ย.จะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แตะระดับ 11.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นที่ 11.9%
          ตัวเลข GDP ที่ลดลง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากยอดการส่งออกสุทธิที่ซบเซาลงเมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 75% ในช่วงไตรมาสที่ 2 มาอยู่ที่ 50% ในช่วงไตรมาสที่ 3
          ทั้งนี้ ดัชนี CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในประเทศนั้น มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาเนื้อหมูมีเสถียรภาพมากขึ้น
          อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 6.0% ในเดือนกันยายนนี้ และอาจอยู่สูงกว่าระดับ 5.0% ไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
          นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.27% ภายในปีนี้ และธนาคารกลางอาจออกมาตรการควบคุมการกู้ยืมเงินของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน