โฆษกคลังเผยปีงบ 50 ขาดดุลเงินสด 1.59 แสนลบ.ช่วยกระตุ้นศก.โตกว่า 4%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 15, 2007 11:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือน ก.ย.50 รัฐบาลมีดุลเงินสดเกินดุล 72,046 ล้านบาท ขณะที่ตลอดปีงบประมาณ 50 รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 158,731 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่จะใช้นโยบายการคลังเป็นเครื่องมือหลักเครื่องมือหนึ่งในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในปี 50 ขยายตัวได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 4%
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลและตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 146,200 ล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 12,531 ล้านบาท
สำหรับฐานะการคลังเดือน ก.ย.50 มีรายได้นำส่งคลัง 191,986 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 6.5% เนื่องจากได้รับรายได้พิเศษจากการยุบเลิกทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 36,951ล้านบาท นอกจากนั้นรายได้จากภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสุรา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ส่วนมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 150,889 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 2.9% แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 116,158 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 28,077 ล้านบาท และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 6,654 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือน ก.ย.50 เกินดุล 41,097 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณซึ่งเกินดุล 30,949 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสดเกินดุล 72,046 ล้านบาท
ขณะที่รายได้นำส่งคลังตลอดปีงบประมาณ 50 มีทั้งสิ้น 1,444,993 ล้านบาท สูงกว่าปีงบก่อน 7.9% โดยภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราสูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีสุรา ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและรายได้จากส่วนราชการอื่นยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเช่นเดียวกัน
ส่วนรายจ่ายรัฐบาลตลอดปีงบ 50 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,574,967 ล้านบาท สูงกว่าการเบิกจ่ายในปีงบก่อน 12.9% แบ่งเป็น รายจ่ายปีปัจจุบัน 1,470,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.7% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 93.91% ของวงเงินงบประมาณ(1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายปีก่อน 104,127 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 16.4%
ดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสดจากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุลทั้งสิ้น 129,973 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่คาดว่าจะขาดดุล 146,200 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 28,758 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจ่ายเงินเหลื่อมจ่ายสุทธิจำนวน 21,925 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง(ดุลเงินสด) ขาดดุลทั้งสิ้น 158,731 ล้านบาท โดยรัฐบาลชดเชยการขาดดุลด้วยการใช้เงินคงคลัง 12,531 ล้านบาท การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 97,115 ล้านบาท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 49,085 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ