นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมการบริหารหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce) หรือ ICC ชุดใหม่ ที่มีนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ เป็นประธานว่า ประเทศไทยถือว่ามีหอการค้านานาชาติประจำประเทศไทยมากกว่า 20 ปีแล้ว ภารกิจสำคัญของหอการค้านานาชาติ คือทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนของโลก ซึ่งมีที่นั่งอยู่ใน UN ด้วย ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน และทำหน้าที่ร่วมพิจารณากฎระเบียบด้านการค้า การลงทุนต่างๆ ที่จะออกมาบังคับใช้ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ
โดยจะมีส่วนสำคัญในการส่งสัญญาณล่วงหน้าให้ภาคเอกชนไทยที่เป็นสมาชิกได้รับทราบ เพื่อเตรียมการรองรับเมื่อกฎกติกาเหล่านี้ได้รับการบังคับใช้ ว่าจะเตรียมการล่วงหน้าอย่างไรในฐานะสมาชิก และกฎระเบียบต่างๆ ที่จะออกมาในอนาคต ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง เช่น การให้ความสำคัญกับการค้าแบบอีคอมเมิร์ซมากขึ้น หรือให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นต้น เป็นทิศทางที่หอการค้านานาชาติจะได้ดำเนินการต่อไปภายใต้ความร่วมมือของหอการค้านานาชาติไทยด้วย
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของการส่งออกที่ตัวเลขติดลบมาแล้ว โดยการส่งออกเริ่มกลับมาเป็นบวกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา และคาดว่าตัวเลขจะกลับมาเป็นบวกอย่างต่อเนื่องในปี 2564 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และเอกชน ที่ทำให้การส่งออกยังเป็นพระเอกดัน GDP ของประเทศให้เป็นบวกในปี 2564 นี้ต่อไป
ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร หอการค้านานาชาติแห่งไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ของโควิด-19 ส่งผลกระทบที่รุนแรงกับเศรษฐกิจทั่วโลกและประเทศไทย วันนี้การส่งออกเป็นเครื่องจักรสำคัญมากที่สุดของเศรษฐกิจไทยที่เห็นความชัดเจนในการเติบโต และทั่วโลกให้ความสำคัญกับอุปสรรคในการส่งออก-นำเข้า
"ICC มีเครือข่ายสามารถเข้ามาช่วยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตการส่งออก การค้า การลงทุน และแก้ไขอุปสรรค สามารถใช้เครือข่ายของ ICC ที่มี 130 ประเทศทั่วโลกผลักดันให้เพิ่มขึ้น" นายพจน์กล่าว