แบงก์ออฟอเมริกาสั่งปลดพนักงาน 3,000 ราย หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ย่ำแย่

          แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับสองของสหรัฐกลายเป็นสถาบันการเงินแห่งล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงาน หลังเผชิญปัญหาหนักหน่วงในช่วงไตรมาสที่สามจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อันสืบเนื่องมาจากภาวะความผันผวนในตลาดสินเชื่อทั่วโลก
          แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า ทางธนาคารกำลังปรับลดพนักงาน 3,000 ตำแหน่งในแผนกวาณิชธนกิจ ซึ่งคำประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารคู่แข่งอย่างวาโคเวีย คอร์ป ได้เริ่มปรับลดพนักงานลงหลายร้อยตำแหน่ง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คำประกาศของธนาคารมีขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารรายงานตัวเลขผลประกอบการไตรมาสามที่ทรุดลง 32% เนื่องจากตัวเลขการลงทุนที่ซบเซา และมูลค่าสินทรัพย์ในบัญชีเงินกู้หลายประเภทที่ลดลงได้บดบังการขยายตัวด้านผลประกอบการที่แข็งแกร่งในธุรกิจส่วนใหญ่
          อย่างไรก็ตาม การสั่งปลดพนักงานในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อลูกจ้างไม่ถึง 2% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในส่วนบรรษัทข้ามชาติและวาณิชธนกิจของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งธนาคารจะเริ่มทบทวนนโยบายเชิงกลยุทธ์ในการบริหารงานด้านวาณิชธนกิจ
          "ในยามที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินงานของธนาคาร การบริหารงานในส่วนของแผนกอื่นๆจำเป็นต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการดำเนินงานให้ได้ผลออกมาดีที่สุด"  เคนเนท ดี. เลวิส ประธานฝ่ายบริการของแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวในแถลงการณ์ "เราจำเป็นต้องใช้นโยบายที่ช่วยให้การดำเนินงานสามารถทำกำไรให้กับทั้งธนาคารและลูกค้าของเราได้