G-Able วางกลยุทธ์ใหม่ชูจุดเด่น System Integration Plus Plus พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 24, 2021 14:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

G-Able วางกลยุทธ์ใหม่ชูจุดเด่น System Integration Plus Plus พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

นายชัยยุทธ ชุณหะชา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทจีเอเบิล (G-Able) ผู้นำการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร ประกาศทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 64 สู่อนาคตที่เติบโตและยั่งยืน ชูจุดเด่น System Integration Plus Plus: SI++ มุ่งเน้นการให้บริการวางรากฐานทางเทคโนโลยี และใช้ประโยชน์เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ พร้อมผนึกกำลังกับบริษัท ไฟร์ วัน วัน จำกัด (Fire One One) นำเสนอบริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบครบวงจร (One Stop Service) และเปิดตัวผลิตภัณฑ์แฟล็กชิพตัวใหม่ Blendata และ InsightEra

G-Able วางกลยุทธ์ใหม่ชูจุดเด่น System Integration Plus Plus พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

ในปี 64 กลุ่มบริษัทจีเอเบิล มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่สร้างจุดเด่นและความแตกต่างในการให้บริการทั้ง 3 ด้านประกอบด้วย

1) กลยุทธ์การพัฒนาตัวเองสู่ System Integration Plus Plus (SI++) คือ กลยุทธ์การพัฒนาตัวเองจาก System Integration หรือ SI ให้เป็น SI++ นอกจากเป็นผู้ให้บริการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีให้กับธุรกิจแล้ว จะมุ่งเน้นการช่วยลูกค้าต่อยอดทางธุรกิจโดยการแนะนำการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีรากฐานต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด

G-Able วางกลยุทธ์ใหม่ชูจุดเด่น System Integration Plus Plus พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

บริษัทออก 4 บริการ G Solution ตอบโจทย์เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงได้แก่ G Cloud Solution กลุ่มโซลูชันที่ให้บริการคลาวด์เทคโนโลยีแพลตฟอร์มอย่างครบวงจร รองรับตลาดคลาวด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ตลาด Cloud จะเติบโตถึง 32% ในประเทศไทย โดยทางบริษัทมีแพ็คเกจทั้ง S M และ L ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจของลูกค้าได้ ซึ่งทางบริษัทจะเข้าไปช่วยธุรกิจลูกค้า 4 ขั้นตอนด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Optimization, Miration, Foundation และ Project

G Security Solution กลุ่มโซลูชันที่ช่วยป้องกันระบบและข้อมูลขององค์กรจากการโจมตีทางไซเบอร์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยการโจมตีทางไซเบอร์สูงขึ้น 71% จากทั่วโลก มักเกิดในกลุ่มธนาคาร ถึง 238% ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ จึงหันมาสนใจลงทุนด้านความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น โดยทางบริษัทเน้นการให้บริการแบบครบวงจรกับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Identify, Protect, Detect, Respond รวมไปถึง Recover อีกด้วย

G Big Data Solution กลุ่มโซลูชันที่มุ่งเน้นการจัดการบิ๊กดาต้าและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ โดยในปีนี้ตลาดดาต้าจะเติบโต 19% ในประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทได้ค้นพบ Basic need 4 ข้อหลักของลูกค้าในการจัดการข้อมูลคือ 1) ต้องการนำข้อมูลมาพัฒนาระบบการดำเนินงานเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้มากขึ้น 2) ต้องการเข้าใจและรู้จักลูกค้ามากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า 3) ต้องการวางแผนกลยุทธ์ตอบรับกับโลกอนาคต และ 4) ต้องการนำข้อมูลมาวัดผลการดำเนินงานที่ได้ทำลงไป

G RPA Solution กลุ่มโซลูชันการทำงานแบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation) ที่ตอบโจทย์การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาดจาก Human error และลดต้นทุนให้กับการดำเนินธุรกิจ โดยในปีนี้ RPA จะเติบโต 20% ในประเทศไทย และจะมี 13% จากบริษัทในตลาด SET 100 ที่จะเลือกใช้ RPA อีกด้วย

2) กลยุทธ์การสร้างทางเลือกใหม่สำหรับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในรูปแบบ Transformation As a Service (TAAS) แบบครบวงจร (One Stop Service) โดยบริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท ไฟร์ วัน วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการทำบิสซิเนสทรานส์ฟอร์เมชั่นชั้นนำระดับประเทศ ร่วมพัฒนาคุณค่าและโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมในทุกมิติให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่เป็นที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์ไปจนถึงการต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์ธุรกิจ TAAS นี้จะเป็นตัวช่วยในการสร้างรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ (new S-curve) ให้กับบริษัทต่อไปในอนาคต

3) กลยุทธ์สร้างความแตกต่างและการเติบโตด้วย Own IP Platform คือ กลยุทธ์การพัฒนา IP Platform ที่เป็นลิขสิทธิ์ของจีเอเบิล เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด มีการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า Blendata และ InsightEra

โดย Blendata เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยองค์กรจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทางธุรกิจ ด้วยต้นทุนที่จับต้องได้ และรันอยู่บน Cloud system ซึ่งถือเป็น Cloud data platform แรกในเมืองไทย ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 1 มิ.ย.นี้

ส่วน InsightEra นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่จะมาตอบโจทย์ในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าในเชิงลึก รวมถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยภายในแพลตฟอร์มนี้จะประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน คือ BRIAN, DOM และ Alice ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในปีนี้

"จีเอเบิลมีความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรในหลากหลายมิติ ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งทั้ง 3 ด้าน จะเป็นตัวขับเคลื่อนจีเอเบิล ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และสามารถสร้างประมาณการรายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจีเอเบิลได้ทรานส์ฟอร์มองค์กร เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเทคโนโลยีถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าเข้าใจในอุตสาหกรรมธุรกิจ รวมถึงการสร้างคุณค่าให้กับองค์กรธุรกิจ เพื่อผลักดันรายได้และผลกำไรที่เหนือกว่า" นายชัยยุทธ กล่าว

ด้านนายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล กล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่า แม้ธุรกิจต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จากผลสำรวจ CEO ทั่วโลกโดยบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำอย่างการ์ทเนอร์ เพื่อจัดอันดับ Top Business Priorities ในปี 64-65 พบว่า องค์กรต่างๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันในหลากหลายมิติได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจัยสำคัญที่องค์กรต่าง ๆ นึกถึงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คือ

1) การสร้างรายได้และการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยมุ่งเน้นการสร้างตลาดใหม่และการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

2) การทำธุรกิจดิจิทัลด้วยการทำงานแบบ ?digitalization? ซึ่งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ในองค์กร ลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

และ 3) การทรานส์ฟอร์มองค์กร ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง กลยุทธ์ รูปแบบการดำเนินธุรกิจ (business model) ไปจนถึงพัฒนาบุคลากร เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ