ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดฮ่องกงช่วงเที่ยงวันนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาหลายรายการนั้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว
โดยทางการสหรัฐจะรายงานดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการในคืนนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะการชะลอตัวทั้งในส่วนของกลุ่มสถาบันการเงินและกลุ่มผู้ค้าปลีก หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนส.ค. อีกทั้งข้อมูลก่อนหน้านี้ยังบ่งชี้ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมก็ปรับตัวลดลงกว่าที่ประเมินไว้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงยังเป็นตัวฉุดให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ลดลง เช่น พันธบัตร และหุ้นกู้ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
ฌอน ดาร์บี้ นักวิเคราะห์จากโนมูระ อินเตอร์เนชั่นเนล ในฮ่องกงคาดการณ์ว่า "เมื่อมองโดยภาพรวมแล้ว เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอีกจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 1.4169 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4155 ดอลลาร์ต่อยูโรในการซื้อขายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และขึ้นจากระดับ 1.4139 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 115.77 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 115.71 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ แต่ลดลงจากระดับ 115.80 ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ธนาคารดีบีเอสในฮ่องกงคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมช่วงปลายเดือนนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--