นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.รวม 4 ฉบับ ได้แก่
1.ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0)
2.ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในระบบอัตโนมัติ)
3.ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจ้างบุคลากรที่มีทักษะสูง)
4.ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูง)
สาระสำคัญของ พ.ร.ฎ.ทั้ง 4 ฉบับเป็นการขอขยายระยะเวลาการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อจูงใจนักลงทุนให้มีการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ส่งเสริมการลงทุนในเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรตามโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติ ส่งเสริมการจ้างบุคลากรที่มีทักษะสูง และส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูง
โดยยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ลงทุนในระบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้มีการจ้างงานบุคลากรผู้มีทักษะสูง ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ ตลอดจนยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับรายจ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูงออกไปอีก 2 ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.63 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65 เพื่อส่งเสริมการลงทุนให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง