ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยอดขายบ้านสหรัฐร่วง ถ่วงดอลล์อ่อนเทียบยูโร,เยน

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโร แต่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์และดอลลาร์หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านมือสองร่วงลง ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4256 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4252 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 114.12 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 114.71 เยนต่อดอลลาร์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0490 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 2.0503 ปอนด์ต่อดอลลาร์ และดีดขึ้นแตะระดับ 97.06 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 96.67 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
          สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ย.ร่วงลง 8% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจทรุดตัวลงอย่างหนักและอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงด้วย
          ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 30-31 ต.ค.นี้
          นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง หลังจากการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มประเทศ G7 ไม่ได้หยิบยกประเด็นค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาหารือกันมากนัก โดยที่ประชุม G7 ต้องการให้จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งแกร่งขึ้นอีก อีกทั้งยังหารือเรื่องกองทุน sovereign wealth funds หรือกองทุนที่นำทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ 
          นอกจากนี้ ที่ประชุม G7 หารือกันเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และเชื่อว่าราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในระดับสูงนั้นจะเป็นภาวะระยะสั้นๆเท่านั้น อีกทั้งเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะสามารถฝ่าฟันกับวิกฤตการณ์นี้ไปได้ดีกว่าที่คิด