นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. จำนวน 3 สัญญา วงเงินก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. จำนวน 2 สัญญา วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งใช้กับทุกโครงการทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะโครงการของการรถไฟฯ เท่านั้น
โดยมีการกำหนดคุณสมบัติ ผู้เข้าเสนอราคาไว้ตามระเบียบ โดยกำหนดเรื่องการใช้วัสดุภายในประเทศ หรือ Local Content ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลด้วย ซึ่งการเสนอราคา e-bidding ไม่สามารถกำหนดว่าจะให้ใครเสนอราคาเท่าไร หรือให้ใครเป็นผู้ชนะการประมูลได้ มีการยื่นเสนอราคาตามขั้นตอน และเมื่อครบกำหนดเวลายื่นเสนอราคา กรมบัญชีกลางจะรายงานผล ขณะที่การรถไฟฯ จะพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติของผู้เสนอราคา และพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
รมว.คมนาคม กล่าวว่า เรื่องนี้จึงไม่มีประเด็นหรือการดำเนินการใดที่มีลักษณะไม่โปร่งใส หรือผิดระเบียบการจัดซื้อจะจ้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตมาก็พร้อมรับฟังและได้ตรวจสอบ แต่ยังไม่พบข้อผิดปกติหรือขัดต่อระเบียบใดๆ
ส่วนที่มีการเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางประมาณ 20 ล้านบาทนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า โครงการนี้มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2555 หรือตั้งแต่ 9 ปีมาแล้ว ขณะที่ปัจจุบันต้นทุนค่าก่อสร้าง ราคาวัสดุต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้นไปมาก เช่น ราคาเหล็กที่ปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งยอมรับว่ายังเป็นกังวลว่าผู้รับจ้างจะสู้ต้นทุนไหวหรือไม่ แต่เมื่อมีการเสนอราคามาแล้ว จะต้องดำเนินการให้ได้ และทำให้เสร็จตามเป้าหมาย
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีข้อเสนอให้ยกเลิกการประมูลนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องนี้จะทำให้เสียโอกาสมากกว่าได้ประโยชน์ โครงการนี้มีราคากลาง มีการคำนวนตามหลักต้นทุนที่เหมาะสม
"อยากให้ผู้ที่ร้องเรียนหรือตั้งข้อสังเกต หากเป็นผู้ประกอบการ อยากให้เข้ามาเสนอราคา เพื่อจะได้เสนอราคาที่ต่ำกว่านี้ หากเห็นว่าราคาที่ประมูลได้ยังแพงเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากกว่า" รมว.คมนาคมระบุ