ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนักเทียบยูโร หลังดาวโจนส์ดิ่งรุนแรง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 33 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา เพราะได้รับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทรุดตัวลงกว่า 300 จุดและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 97.37 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 96.35 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4296 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4294 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.4319 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.0500 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0448 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 114.80 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 115.65 เยนต่อดอลลาร์
          ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 366.94 จุด หรือ 2.64% แตะระดับ 13,522.02 จุด เพราะได้รับแรงกดดันหลายด้าน อาทิ บริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ความกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อ และราคาน้ำมันที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง
          นักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยไปได้ เพราะคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากเศรษฐกิจสหรัฐยังชะลอตัวลง
          นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวกว่า การทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจฉุดเศรษฐกิจของสหรัฐให้ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญไปจนถึงปีหน้า และกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่หลังจากถูกกระทบจากวิกฤตการณ์สินเชื่อนั้น จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง