นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลกระทบจากการ ปฎิวัติในเมียนมาต่อการส่งออกสินค้าไทยว่า คาดว่ามูลค่าและอัตราการส่งออกของไทยไปเมียนมาจะขยายตัวลดลง โดยแบ่งเป็น 3 กรณี คือ
รายการ มูลค่าการส่งออกไปเมียนมารวม อัตราการหดตัวในการส่งออกรวมของไทย มูลค่าการส่งออกที่ลดลง อัตราการหดตัว % ล้านบาท % กรณีที่ 1 รุนแรงมากขึ้น -96,590 -82.2 -1.3 กรณีที่ 2 ยังคงมีปัญหา การเมืองแต่มีผู้เสียชีวิตลดลง -60,670 -51.6 -0.8 กรณีที่ 3 สามารถเจรจากันได้ และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม -10,270 -8.7 -0.1
โดย 10 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเสี่ยงที่มีมูลค่าการส่งออกลดลงมาก เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกล เหล็ก ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เภสัชภันฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และเซรามิก
ขณะที่มี 15 สินค้าอุปโภคบริโภคเสี่ยงที่มีมูลค่าการส่งออกลดลงมาก เช่น เครื่องดื่ม, เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษา ผิว, น้ำตาลทราย, อาหารสัตว์, น้ำมันพืช, วิทยุ โทรทัศน์ กุ้งสดแช่แข็ง, รองเท้า, ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ, เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องครัว, ผลไม้กระป๋องและแปรรุป, ข้าวสาร, ปลาสดแช่แข็ง, เครื่องปรุงรสอาหาร และผลไม้สดแช่แข็ง
ทั้งนี้ในปี 2563 ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปเมียนมาเท่ากับ 117,525 ล้านบาท