การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงเกี่ยวกับการประมูลโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของว่า หากจะมีการประกวดราคาใหม่ต้องปรับราคากลางให้เป็นราคาปัจจุบัน ซึ่งตามข้อเท็จจริงราคาเหล็กในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 40% จะส่งผลให้ราคากลางใหม่สูงขึ้นเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และต้องเริ่มกระบวนการขออนุมัติปรับกรอบวงเงินใหม่ จึงจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างได้ ทำให้ภาครัฐและประเทศชาติได้รับความเสียหายจากการที่ต้องใช้งบประมาณมากขึ้น
ในส่วนภาพรวมของการพัฒนาประเทศ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการพัฒนาทางด้านการคมนาคมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้าชายแดน เส้นทางรถไฟสายใหม่ที่จะเชื่อมโยงการค้าระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ ที่จะสามารถช่วยเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าจากไทยไปลาว จีน เวียดนาม และเขตเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการแข่งขันและประโยชน์จากการเป็นประชาคมอาเซียนอีกด้วย
ทั้งนี้ รฟท. ยืนยันว่า ในการดำเนินการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ครั้งนี้ รฟท. ได้ถือปฏิบัติตามขั้นตอนการประกวดราคาแบบ e-Bidding และปฏิบัติตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด
สำหรับการกล่าวอ้างว่ามีการฮั้วประมูลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชื่อเสียงของการรถไฟฯ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องผู้สังเกตการณ์ที่กรมบัญชีกลางแต่งตั้ง บริษัทที่เข้าร่วมประมูล รวมถึงบริษัทที่เข้ามาซื้อซองทุกราย
"หากพบหลักฐานการสมยอมการเสนอราคาแจ้งได้ที่ รฟท. และ รฟท. พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"