กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนว่า อาจชะลอตัวลงในปี 2551 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาตลาดเงินที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งปัจจัยจากเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลง
"ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่ามีสัญญาณหลายอย่างชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจในยุโรปตะวันตกจะเติบโตขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ แม้ว่าจะมีปัญหาตลาดเงินเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลงจะบรรเทาลงบ้างแล้วก็ตาม" ไอเอ็มเอฟกล่าว
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนในปี 2551 ว่า จะอยู่ที่ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.5% และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2550 จะขยายตัว 2.5% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2.6% ขณะที่เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนในปี 2549 ขยายตัว 2.8%
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีลงสู่ระดับ 2.4% ในปีนี้ และที่ 2.0% ในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 2.6% และ 2.4% ตามลำดับ ส่วน GDP ของฝรั่งเศสคาดว่า จะขยายตัว 1.9% ในปีนี้ และ 2.0% ในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 2.2% และ 2.3%
ขณะที่ GDP ของอิตาลีคาดว่า จะเติบโต 1.7% ในปีนี้ และ 1.3% ในปีหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.8% และ 1.7% ตามลำดับ
ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโรอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก โดยเฉพาะประเทศที่ประสบปัญหาด้านความสามารถในการแข่งขัน
"การส่งออกสินค้าอาจได้รับผลกระทบจากความต้องการสินค้าภายนอกประเทศที่ลดลง และการแข็งค่าของค่าเงินยูโรมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อโอกาสด้านการส่งออกของประเทศที่ขาดมาตรการรับมือด้านความสามารถในการแข่งขันที่เพียงพอ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส โปรตุเกส และสเปน" ไอเอ็มเอฟกล่าว
ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้นี้ แต่อาจเตรียมพร้อมปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากที่ปัญหาตลาดเงินที่เกิดเมื่อไม่นานมานี้ได้คลี่คลายลงแล้ว ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--