วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐและเจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐอาจทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยเป็นเวลานานถึง 2 ปี แต่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันปัญหาดังกล่าวไปได้
"ปัญหาซับไพรม์กำลังส่งผลกระทบอย่างหนัก และคาดว่าจะมีอานุภาพรุนแรงขึ้น ผมคาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรืออาจจะ 1-2 ปีข้างหน้า ปัญหาซับไพรม์จะสร้างปัญหาที่หนักหน่วงให้กับผู้บริโภคและบั่นทอนอำนาจซื้อในสหรัฐอเมริกา" บัฟเฟตต์กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีใต้
"แต่ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสหรัฐสามารถฟันฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆไปได้หลายครั้ง ซึ่งผมก็เชื่อว่าสหรัฐจะสามารถรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ได้เช่นกัน เพราะเมื่อดูจากปัจจัยโดยรวมแล้วจะเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัว" เขากล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บัฟเฟตต์ซึ่งไม่ค่อยเดินทางไปต่างประเทศมากนัก ได้เดินทางไปยังเมืองแดกูซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 300 กิโลเมตร เพื่อเยี่ยมชมบริษัทแทกูเทค ซึ่งบริษัทแฮธาเวย์ของบัฟเฟตต์ได้เข้าซื้อหุ้น 80% ในบริษัทแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งแรกในต่างประเทศ
รายงานระบุว่า บัฟเฟตต์ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานของบริษัทเทกูเทค และเมื่อพนักงานคนหนึ่งขอให้เขาแสดงความคิดเห็นเรื่องกลยุทธ์ในการลงทุน เขาตอบว่า "การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวคุณเอง คุณต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นจงขวนขยายหาความรู้ใส่ตัวเองก่อนที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดใดๆก็ตาม"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--