ดอลล์อ่อนค่าที่ตลาดฮ่องกงบ่ายนี้ หลัง IMF ชี้ดอลล์ยังแข็งค่าเกินไป

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแกว่งตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายที่ตลาดฮ่องกงช่วงบ่ายวันนี้(16 ต.ค.) หลังจากที่นายโรดริโก เดอ ราโต้ ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากเกินไป และคาดว่าดอลลาร์ยังมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงอีก
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4204 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4201 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราอออสตรเลียเช้านี้ และจาก 1.210 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เงินยูโรพุ่งทะยานแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4283 ดอลลาร์ต่อยุโรมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา
          ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ระดับ 117.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 117.35 เยนต่อดอลลาร์เมื่อเช้าที่ผ่านมา และอ่อนค่าลงจากระดับ 117.42 ดอลลาร์สหรัฐที่ตลาดนิวยอร์ก
          ทิม คอนดอน นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "สถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในวันนี้เป็นผลมาจากการแสดงความคิดเห็นของนายเดอ ราโต้ และนายเบนเบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
          นายเบอร์นันเก้กล่าวต่อสมาคมเศรษฐกิจนิวยอร์คเมื่อวานนี้ว่า สถานการณ์ในตลาดเงินเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้วหลังจากได้เผชิญวิกฤตการณ์ในช่วงกลางเดือนส.ค. แต่การฟื้นตัวอย่างเต็มที่ของตลาดการเงินจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นเราอาจจะเห็นว่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก"
          ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ทรุดตัวลงถึง 57% จากระดับในปีที่ผ่านมา จากการออกตราสารที่ค้ำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (mortgage backed security:MBS) และการตัดบัญชีหนี้สูญ เป็นวงเงินถึง 3 พันล้านดอลลาร์
          นอกจากนี้ มีข่าวว่า ธนาคารซิตี้กรุ๊ป เจพีมอร์แกน และแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป  ประกาศร่วมจัดตั้งกองทุนมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อตราสารสินทรัพย์ค้ำประกันที่มีความเสี่ยงสูง จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น