ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร ขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐสดใส

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวได้ดี
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ  1.4176 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4217 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 117.56 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 117.25 เยนต่อดอลลาร์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 97.36 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 97.62 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 2.0343 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 2.0337 ปอนด์ต่อดอลลาร์
          ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3%  เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2% 
          นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งสะอนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวสหรัฐยังคงสดใส ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มการทำธุรกรรม carry trade สกุลเงินเยน 
          นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.5%  ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% 
          โดยราคาพลังงานทั่วสหรัฐในเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 4.1% ซึ่งขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2549 ส่วนราคาอาหารพุ่งขึ้น 1.5% ซึ่งปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้