ขุนคลังสหรัฐชี้ ตลาดอสังหาฯซบเซาเป็นปัจจัยเสี่ยงรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 17, 2007 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความคิดเห็นที่ศูนย์กฏหมายเมืองจอร์จทาวน์ ว่า อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
"ภาวะชะลอตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงปรากฏให้เห็น และผมมองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของเศรษฐกิจของเรา ตราบใดที่ราคาที่อยู่อาศัยยังคงชะลอตัวลง เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ นายพอลสันตอบว่า เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และย้ำว่ายังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าขั้นถดถอย
ทั้งนี้ พอลสันประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐไม่แตกต่างไปจากที่เคยประเมินไว้เมื่อครั้งก่อนว่า เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงหนักสุดในรอบ 30 ปี และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ส่วนข่าวที่ว่าสหภาพยุโรปจะพยายามกดดันสหรัฐให้ใช้มาตรการสกัดกั้นการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในที่ประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้นั้น นายพอลสันย้ำว่า "สหรัฐยังคงเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ และความเคลื่อนไหวของค่าเงินควรถูกกำหนดโดยปัจจัยพื้นฐานในตลาด"
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ พอลสันเตือนว่า "ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐจะได้รับการแก้ไขในเร็วๆนี้ การปรับฐานในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ และอาจจะยืดเยื้อต่อไปจนถึงปลายปี และขณะนี้ดูเหมือนว่าภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนของสหรัฐ"
นอกจากนี้ พอลสันเตือนว่า ลูกหนี้กลุ่มที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนอง และคาดว่าลูกหนี้กลุ่มนี้ยังคงผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดป้ญหาตามมาอีกมาก สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ