นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว ประกอบกับมีการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น 0.23% ขณะเดียวกันจะทำอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของเดือนต.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0.1% แต่เชื่อว่าทั้งเดือนต.ค.ไม่น่าจะสูงกว่าเดือนก.ย.ที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.1% เพราะผัก, ผลไม้ และเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่มีราคาลดลงถึงทรงตัว
สำหรับการพิจารณาการปรับขึ้นราคาสินค้าตามที่ผู้ผลิตสินค้า 14 กลุ่มยื่นขอเข้ามายังกรมการค้าภายในนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้สินค้ากลุ่มใดปรับขึ้นราคา ส่วนสินค้าบางตัวที่ปรับขึ้นราคาไปแล้วนั้นเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน เช่น กาแฟสำเร็จรูป
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ผลิตสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ ได้ทำเรื่องเสนอขอปรับราคาสินค้าขนาดจัมโบ้เพิ่มอีกซองละ 1 บาท และได้ส่งต้นทุนมาให้กรมการค้าภายในพิจารณาแล้ว ในขณะที่ผู้ผลิตมาม่ายังไม่ได้ยื่นต้นทุนมาให้พิจารณาอย่างเป็นทางการ แม้จะส่งสัญญาณจากผู้ผลิตว่าจะขอปรับขึ้นราคาภายในต้นเดือน ธ.ค.นี้ หรือต้นเดือน ม.ค.51
นายยรรยง ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำราคากลางยาว่า เร็วๆ นี้จะนัดหารือกับสมาคมผู้ผลิตยาในประเทศ เพื่อร่วมกันพิจารณาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นก่อนที่กำหนดเป็นราคากลางยาที่จำเป็น เพราะสมาคมผู้ผลิตยาในประเทศแจ้งว่าต้นทุนการผลิตยารักษาโรคเพิ่มขึ้นสูงมาก ประกอบกับได้รับผลกระทบจากการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องยึดราคากลางยาตามบัญชีหลักเดิม(ยาจำเป็นต่อชีวิตประจำวันประมาณ 200 รายการ)ของกระทรวงสาธารณสุข
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--