ธปท. เผยครัวเรือนหยุดใช้จ่ายหลังไม่มั่นใจศก.อาจส่งผลระบบการเงิน

          ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานในภาวะเงินเฟ้อฉบับเดือนต.ค.ว่า คณะกรรมการการเงิน(กนง.)ได้เร่งติดตามปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา เพราะมีผลต่อการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของทั้งระบบได้
        การชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนสะท้อนจากในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เสถียรภาพของภาคครัวเรือนอยู่ในเกณฑ์ดี
โดยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของธนาคารพาณิชย์ที่ให้กับภาคครัวเรือนยังต่ำ
          ขณะเดียวกันครัวเรือนได้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย เนื่องจากยังไม่ค่อยมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคต
สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นการบริโภคที่ปรับต่ำลง
        ความระมัดระวังดังกล่าวสะท้อนได้จากปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิต โดยเฉพาะการเบิกเงินสดล่วงหน้าและเพื่อการใช้จ่ายของทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์(Non-Bank)ที่ขยายตัวในอัตราชะลอลง
        นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการขยายตัวของคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตชะลอตัวลงยิ่งกว่าปริมาณการใช้จ่ายเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคครัวเรือนพยายามที่จะชำระหนี้คงค้างมากขึ้น รวมทั้งลดการก่อหนี้ใหม่ โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่ออกโดย Non-Bank ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตต่อปริมาณการใช้จ่ายลดลง
        อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาตามกลุ่มรายได้พบว่าครัวเรือนบางกลุ่มมีปัญหาด้านการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยถึงปานกลาง ประเมินได้จากคุณภาพสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ด้อยลง โดยสัดส่วนหนี้จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ(สินเชื่อที่ค้างชำระตั้งแต่ 1-3 เดือน)ยังคงโน้มสูงต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว
        นอกจากนี้ยังเห็นสัญญาณความเปราะบางที่มากขึ้นอีกจากการคงค้างหนี้ครัวเรือนที่นานขึ้นหรือหนี้ได้กลายเป็นสินเชื่อจัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน(สินเชื่อที่ค้างชำระตั้งแต่3-6 เดือน)ในสัดส่วนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องชัดเจนกว่ากลุ่มรายได้อื่น