เจพี มอร์แกน แอนด์ โค กล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.3% จากปีที่แล้ว แตะระดับ 3.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 1.611 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.6%
แม้ว่าตัวเลขการปล่อยกู้และหนี้เสียของธนาคารจะมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่ธนาคารก็มีกำไรสุทธิและรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการดำเนินงานด้านการจัดการสินทรัพย์และการรับประกันตราสารหนี้ของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น
"โดยรวมแล้วบริษัทของเราดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดีในช่วงไตรมาสที่ 3 แม้ว่าจะประสบปัญหาตลาดสินเชื่อก็ตาม อย่างไรก็ตามเรายังต้องระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจในอนาคต แต่เราจะเดินหน้าการลงทุนโดยคำนึงถึงแนวโน้มตลาดและจำนวนลูกค้าในอนาคต" จามี ดิมอน ประธานและผู้บริหารของบริษัทกล่าวในแถลงการณ์
"เราจะตั้งเป้าไปที่การลงทุนในทุกสาขาของเรา ซึ่งรวมถึงวาณิชธนกิจ และบริษัทปล่อยกู้รายย่อยต่างๆ ซึ่งเป็นที่ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากงบดุลของเรา เพื่อพัฒนาการให้บริการลูกค้าของเราให้ดีขึ้นและครองส่วนแบ่งตลาด เราเชื่อว่าบริษัทของเราจะมีผลการดำเนินงานที่ดีเช่นนี้ต่อไปในอนาคต" ดิมอนกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--