ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: กระแสคาดเฟดลดดบ. กดดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์,เยน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 10, 2007 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 18 ก.ย.ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4098 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4047 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0355 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0350 ดอลลาร์ต่อปอนด์
หากเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนนั้น ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 117.19 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 117.36 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์แคนาดาพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0169 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0132 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา
รายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อตึงตัวและปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ ขณะเดียวกันคณะกรรมการเฟดกังวลว่าการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงจะส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดยังส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาด และระบุว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังไร้ทิศทางเพราะผลพวงจากวิกฤตการณ์สินเชื่อในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงมาโดยตลอดนับตั้งแต่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เพราะการลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าลดลงและไม่น่าดึงดูดใจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.75% แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ เนื่องจากภาวะสินเชื่อหดตัวในตลาดโลกเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 4.00% ซึ่งเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกัน 4 เดือน
ทั้งนี้ นายเดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์ คาดว่า "ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนตัวลงอีกแม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะออกมาแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังสกุลเงินอื่นๆและลังเลที่จะถือครองสกุลเงินดอลลาร์ไว้นานๆ"
ด้านยุโรปนั้น รัฐบาลของหลายประเทศเรียกร้องให้ธนาคารกลางยุโรปสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกของยุโรป นอกจากนี้ สมาพันธ์นายจ้างแห่งยุโรปได้ร้องเรียนต่อสหภาพยุโรป (อียู) ว่า สกุลเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นกำลังสร้างความเสียหายต่อธุรกิจหลายประเทศในยุโรปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ