นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม มองแนวโน้มการลงทุนของไทยตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนของ บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ที่จะมีเม็ดเงินลงทุนถึง 35,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผลจากการเจรจาความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศอื่นๆ เช่น เอฟทีเออาเซียน-ญี่ปุ่น จะส่งผลดีต่อการลงทุนของประเทศไทยใน 1-2 ปีหน้าด้วยเช่นกัน
"การลงทุนจะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 เฉพาะแค่บริษัท ปตท.และปูนซิเมนต์ไทย เขาจะลงทุนที่มาบตาพุดถึง 35,000 ล้านบาท และเหตุการณ์ความร่วมมือของอาเซียนก็จะพลิกเป็นคุณมากกับประเทศไทย กลุ่มอาเซียนจะถูกจับตามองเป็นพิเศษในอีก 1-2 ปีหน้า" นายโฆสิต ระบุ
พร้อมมองว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไปในทุกเรื่องสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจากต่างประเทศโดยเชื่อว่านักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในระยะยาวยังมองเห็นถึงพื้นฐานที่ดีทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
เพียงแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นมาจากปัจจัยจากภายนอก โดยเฉพาะความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบมาตั้งแต่ปี 49 และแม้รัฐบาลจะได้บริหารจัดการปัญหาต่างๆ ไปแล้ว แต่ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ยังอาจจะวนเวียนเข้ามาได้อีก
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--