นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 31.86 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.75/77 บาท/ดอลลาร์
ปิดตลาดวันนี้เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ค.63 หลังจากระหว่างวันอ่อนค่าสุดไปที่ระดับ 31.92 บาท/ดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่าสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 51 รายในวันนี้ ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศที่ยังกังวลต่อเนื่องกรณีที่ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นกว่าคาด
"บาทที่อ่อนค่าวันนี้ มีหลายปัจจัยผสมโรงกันไป จากเรื่องเฟดที่จะขึ้นดอกเบี้ยไวขึ้น ก็ยังมีผลต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ รวมทั้ง panic ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดในประเทศ ส่วน กนง.ที่หั่น GDP ปีนี้ลง น่าจะมีผลจำกัด เพราะคนคาดการณ์ไว้แล้วว่าต้องปรับลด" นัก บริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน มองว่า แนวโน้มเงินบาทวันพรุ่งนี้ยังมีทิศทางอ่อนค่าแตะระดับ 32.00 บาท/ดอลลาร์ ให้กรอบไว้ที่ 31.75- 32.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมองว่าระยะนี้ นักลงทุนจะเข้าซื้อดอลลาร์ และขายเงินบาทเป็นหลัก
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.04 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.56/57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1938 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1906/1950 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,592.08 จุด ลดลง 7.15 จุด (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 77,735 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 214.03 ลบ.(SET+MAI)
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% โดยมองว่าการระบาดของ
- กนง. ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 64 ลงเหลือ 1.8% จากเดิมคาด 3% ตามแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ปัดข้อเสนอของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะให้ล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพฯ 7 วัน เพื่อควบคุม
- ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่า การพัฒนาวัคซีน Chulacov19 ชนิด mRNA จะแล้ว
- ภาคเอกชน เชื่อว่าเป้าหมายเปิดประเทศใน 120 วัน หากทำได้จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมา และคาดว่าในไตร
- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่บริษัทผลิตนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโค
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.2 ในเดือน มิ.ย.
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนเม.ย.ว่า กรรมการบริหารของ BOJ มีความเห็นตรงกันว่า
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตร
มาส 1/2564, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นและภาคบริการขั้นต้น เดือนเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้าน
ใหม่เดือนพ.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. และจำนวนผู้
ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น