ว่าที่ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คาดว่า ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ที่ล่าสุดได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีนั้น จะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานรัฐบาลและสนช.(วิป สนช.) ได้ราวต้นเดือนพ.ย.50
จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ที่จะต้องเร่งรัดการประชุมโดยนัดประชุมให้ถี่ขึ้น เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนที่จะหมดวาระการทำงานของรัฐบาล แต่ทั้งนี้คาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ทันรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ว่าที่ร.อ.จิตร์ แสดงความเห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เนื่องจากมองว่าเป็นร่างกฎหมายที่มีการประนีประนอม ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็กอยู่ร่วมกันได้ และยังปรับให้กฎหมายมีมาตรฐานเดียวในการบังคับใช้ โดยเฉพาะการยุบคณะกรรมการระดับจังหวัดดูแลธุรกิจค้าปลีก (กจค.) ให้เหลือเพียงคณะกรรมการกลางเพียงคณะเดียว
อนึ่ง ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค. โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง 3 ประเภทต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป 2.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่มียอดขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และ 3.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่ซื้อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิอย่างอื่น
ตลอดจนตัดคณะกรรมการควบคุมระดับจังหวัดออก โดยให้มีเพียงคณะกรรมการกำกัลป์ดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กกค.) เพียงชุดเดียว เพื่อทำกำหนดนโยบาย ออกระเบียบ พิจารณาใบอนุญาต การจัดทำกฎกระทรวงให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ รวมถึงให้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจ เช่น กำหนดสถานที่ตั้ง, ระยะห่างจากตัวเมือง, วันเวลาเปิด-ปิด เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--