นักวิเคราะห์ในโพลล์ของธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า เนื่องจากค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเนื่องจากวิกฤติการณ์สินเชื่อในสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรป
นายจิลเลส โมซ์ นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบี และนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเมือง โดยล่าสุดนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสเรียกร้องให้นายทริเชต์ใช้มาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร ขณะที่นายคิงถูกบีบให้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดจากวิกฤติสินเชื่อในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับธนาคารนอร์ทเธิร์น ร็อค
นายแอนเดรียส รีส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทยูนิเครดิตในเมืองมิวนิค กล่าวว่า "ภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นในตลาดกู้จำนองของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรปด้วย โดยมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งของสวิสที่รายงานตัวเลขขาดทุนมูลค่ามหาศาล ซึ่งรวมถึงธนาคารยูบีเอส ดังนั้นเราจึงคาดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้อีซีบียังไม่คิดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัดส่วนที่มากเกินคาดถึง 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างรุนแรง และทำให้สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นมาโดยตลอด จนเป็นเหตุให้หลายประเทศในยุโรปออกมาท้วงติงกว่า สกุลเงินยูโรที่แข็งขึ้นเช่นนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศยุโรป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--