พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายและข้อสั่งการ เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนของโครงการ Phuket Sandbox ที่ จ.ภูเก็ต โดยระบุว่า จากที่ได้ตรวจเยี่ยมการเตรียมการ Phuket Sandbox จนถึงขณะนี้พบว่าทุกฝ่ายมีการทำงานที่สอดคล้องกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และพร้อมเป็นกำลังใจให้ จ.ภูเก็ต
"วันนี้ก็เริ่มมีเที่ยวบินเข้ามาแล้วจากอาบูดาบี ตอน 11 โมง และเริ่มมีจองเข้ามาเป็นระยะ คาดว่าจากนี้ไปในระยะ 14-15 วัน ไปจนถึงไตรมาสหน้าก็จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้น ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ ไม่ใช่โดยใคร แต่โดยเราคนไทยทุกคน ถ้าเราทำ Phuket Sandbox ได้ เราก็สามารถขยายไปยังที่อื่นๆ ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมกับสั่งให้ไปศึกษาแนวทางเหมือนเช่นการทำ Phuket Sandbox ในจังหวัดอื่นๆ ต่อไปได้หรือไม่ ในทุกภาคที่มีการท่องเที่ยว ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการไปทีละขั้นตอน ซึ่งทุกอย่างต้องเริ่มมีการนับหนึ่ง หากเปิดพร้อมกันทีเดียวจะมีปัญหา
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การเปิดภูเก็ต ไม่ใช่เป็นเรื่องของจังหวัดภูเก็ตจังหวัดเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ทุกจังหวัดที่ต้องเริ่มนำร่อง เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ดูประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่างๆ ให้เป็นส่วนหนึ่งของการให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ให้เปิด ตรงไหนทำได้ให้ทำ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการจะต้องมีความรอบคอบ ไม่ประมาท คำนึงถึงชีวิตประชาชน เพื่อให้การดำเนินชีวิตและภาคธุรกิจสามารถไปด้วยกันได้ และสามารถผ่อนคลายได้ แต่หากไม่ปฏิบัติตาม ก็จำเป็นต้องมีมาตรการหรือกฎหมายออกมา และถ้าทุกคนคอยแต่หลบเลี่ยงมาตรการก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะสถานประกอบการ เห็นอยู่แล้วว่ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิด หลายอย่างรัฐบาลและกระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม รัฐบาลก็ยังต้องดูแล ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาลและเชื่อหมอ เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ
พร้อมระบุว่า หลายประเทศที่ไม่เคยเดินทางเข้ามาในไทย แต่ก็เริ่มเดินทางเข้ามา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศเหล่านั้นเริ่มมีความเชื่อมั่นประเทศไทย และยอมรับแนวทางกติกาการปฏิบัติของไทย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในต่างประเทศว่า ทั้งในยุโรปและประเทศต่างๆ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยเราจะประมาทไม่ได้ ต้องรอบคอบ ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะต้องมีมาตรการ มีกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นจากสถิติที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโลก เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยได้ทำมาหา จึงต้องมีมาตรการควบคุมโรค
"เรารู้ว่าอาจจะมีความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยสามารถทำมาหากินได้บ้าง ต้องดูว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้ไหม รับไหวไหม ถ้าทำได้ก็ทำต่อไปเป็นขั้นๆ ทำเป็นพื้นที่ไป อยากให้ Phuket Sandbox ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา...ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เป็นผู้นำของชาติ ในการเปิด Sandbox ขึ้นมา ทั้งประเทศกำลังรอดู อย่าพลาด จังหวัดอื่นๆ ก็ต้องร่วมให้กำลังใจชาวภูเก็ตด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะตนเองได้ฝากความห่วงใยผ่านศบค. กระทรวงสาธารณสุข และคณะรัฐมนตรี ตนเองไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง เป็นมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังไว้ที่นี่
"ทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด เวลาผมพูดอะไรก็ไปแปลเจตนากันผิด ซึ่งยอมรับว่า ตนเองคิดเยอะเพราะมีหลายเรื่องให้คิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขา รั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ ช้าไปหมด"