นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงอยู่ในปัจจุบันทำให้ BCP มองหาทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้น้ำมัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบสูตรน้ำมันใหม่โดยนำเอทานอล 2-3%มาผสมกับน้ำมันดีเซล ภายใต้ชื่อ E-ดีเซล ซึ่งได้เริ่มทดลองมา 1 เดือนแล้ว
ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีส่วนทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับตัวลดลงเล็กน้อย เพราะขณะนี้ราคาเอทานอลอยู่ในระดับต่ำประมาณ 15 บาท/ลิตร อีกทั้งจากการทดสอบก็ไม่พบว่าทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันดีเซลด้อยลง แต่อย่างไรก็ดีคาดว่าจะใช้เวลาทดสอบอีกสักระยะก่อนสรุปผลและนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อประกาศใช้น้ำมัน E-ดีเซล ต่อไป
ปัจจุบันการจำหนายน้ำมันดีเซลของ BCP อยู่ที่ 50 ล้านลิตร/วัน ซึ่งหากนำเอทานอล 2% มาผสมในน้ำมันดีเซลจะต้องใช้ปริมาณเอทานอล 1 ล้านลิตร/วัน ซึ่งเท่ากับช่วยลดปัญหากำลังการผลิตเอทานอลล้นตลาดได้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันในประเทศได้ตัดสินใจที่จะชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ออกไปก่อน แม้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินและดีเซลจะเหลือเพียง 10 สตางค์/ลิตรเท่านั้น ทั้งนี้เพราะไม่ต้องการผลักภาระให้กับประชาชน แต่บางจากขอพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกสัปดาห์หน้าอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการชะลอปรับขึ้นราคาน้ำมันคงทำได้เพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะหากน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นราคาก็จำเป็นที่ราคาน้ำมันในประเทศต้องปรับตัวขึ้นไปตามกลไกของตลาด ดังนั้นในขณะนี้แนะนำให้ประชาชนพิจารณาการใช้พลังงานทดแทนในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูง และยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
นายอนุสรณ์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสไม่น่าจะแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามที่มีหลายฝ่ายวิตกกังวล เพราะกองทุนเฮดจ์ฟันที่เข้าไปเก็งกำไรในก่อนหน้านี้ได้กำไรไปแล้วถึง 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเชื่อว่าจะเริ่มทยอยขายออกมาซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงได้
แต่ทั้งนี้แนวโน้มราคาน้ำมันยังน่าจะอยู่ในระดับที่สูง โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการใช้พลังงานจากาเชื้อเพลิงมากขึ้น ประกอบกับยังมีความกังวลต่อปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง แตหากราคาน้ำมันจะทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็คงเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เท่านั้น
*คาดค่าการกลั่นปีนี้มีโอกาสสูงกว่าคาด
อย่างไรก็ดี ภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลดีต่อโรงกลั่นน้ำมันที่จะได้รับค่าการกลั่นสูงขึ้นตาม โดยคาดว่าภาพรวมของค่าการกลั่นในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่ BCP มีโอกาสที่ค่าการกลั่นในปีนี้จะสูงกว่าที่คาดไว้ในระดับ 3-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยอาจจะอยู่สูงกว่า 4 เหรียญสหรัฐ แต่ไม่ถึง 5 เหรียญสหรัฐ
เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในช่วงไตรมาส 3/50 และไตรมาส 4/50 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 2-3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยเฉพาะส่วนต่างราคาดีเซลสูงถึง 17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และส่วนต่างเบนซินอยู่ที่ 9-10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนในปีหน้าก็คาดว่าค่าการกลั่นของ BCP จะดีขึ้นอีกเล็กน้อย และหลังจากหน่วย Cracker Unit แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 51 ก็จะส่งผลให้ค่าการกลั่นของบริษัทในปี 52 ปรับตัวดีขึ้นมาเป็น 6-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลใกล้เคียงกับโรงกลั่นน้ำมันแห่งอื่น
สำหรับปี 51 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท โดยเน้นการปรับปรุงและขยายสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ ส่วนสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่น่าจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--